ข้าวใหม่ ปลามัน
ใครมาเที่ยวน่านช่วงนี้อาจได้ยินคำว่า “กินข้าวใหม่” บ่อยหน่อย...และถ้าได้มีโอกาส ‘กินข้าวใหม่’ จริงๆ จะรู้ซึ้งถึงความหอม นุ่ม อร่อย แตกต่างจากข้าวทั่วไปที่เราเคยกิน ทำให้อาหารมื้อนั้นอร่อยกว่าเดิมเป็นเท่าตัว
“ข้าวใหม่” คือข้าวที่เกี่ยวเสร็จใหม่ๆ จากการปลูกในฤดูกาลเท่านั้น (นาปี) เพราะต้นข้าวจะได้รับสายลมแสงแดดตามช่วงเวลาของธรรมชาติ ทำให้ข้าวเจริญเติบโตอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งข้าวจะสุกและถูกเก็บเกี่ยวในช่วงปลายปี เราจึงมีข้าวใหม่กินกันในช่วงเดือนธันวาคมถึงมกราคมเพียงเท่านั้น
นอกจากความหอม นุ่ม อร่อย แล้ว ข้าวใหม่ยังคงไว้ซึ่งคุณค่าทางอาหาร ชาวบ้านพูดว่า ‘ข้าวยังมีชีวิต’ หากนำไปเพาะข้าวกล้องงอกจะงอกออกมา ซึ่งข้าวเก่าหรือข้าวที่ตายแล้วทำไม่ได้ ดังนั้นการได้กินข้าวใหม่คือการได้กินข้าวที่ยังมีชีวิต มีรสชาติ กลิ่นหอม มีคุณค่าสารอาหารและสรรพคุณยังอยู่ครบ
ประเพณีตานข้าวใหม่
เมื่อถึงฤดูเกี่ยวข้าวซึ่งถือเอาวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 เหนือหรือประมาณเดือนธันวาคมของทุกปี ชาวน่านจะมีประเพณีถวายตานข้าวใหม่เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้บรรพบุรุษ และเพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูที่ได้รับมรดกเป็นที่นาเอาไว้ปลูกข้าว ให้มีข้าวกินได้ตลอดทั้งปี
แวะชิมเมนูเห็ด แกล้มวิวท้องทุ่ง ที่ ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ อ.ปัว จ.น่าน
วิวสีเขียวสบายตาของทุ่งนาที่มีฉากหลังเป็นภูเขาสูง สร้างบรรยากาศให้มื้ออาหารอร่อยยิ่งขึ้น
ใครที่มีจุดหมายปลายทางเป็นอำเภอปัว จังหวัดน่าน ต้องไม่พลาดแวะฝากท้องที่ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำที่นอกจากจะมีองค์ความรู้เรื่องการเพาะเห็ดให้ศึกษาแล้ว ยังมีเมนูจากเห็ดพร้อมเสิร์ฟให้ผู้มาเยือนได้ลองลิ้ม ไม่ว่าจะเป็นพิซซ่าเห็ด เมนูขึ้นชื่อที่ต้องห้ามพลาดและเมนูอื่นๆ อีกมาก เช่น เห็ดเป๋าฮื้อผัดฉ่า ลาบเห็ดอีสาน แกงเห็ดนางฟ้าแบบเมือง หรือจะเป็นเมนูจานเดียวง่ายๆ อย่าง ข้าวราดกระเพราเห็ด ข้าวไข่เจียวเห็ด ฯลฯ สารพัดเมนูที่ปรุงสดจากเห็ดในฟาร์มโดยไม่มีการใช้ผงชูรส
อิ่มแล้วยังสามารถเดินลัดเลาะตามริมทุ่งเพื่อไป “วังศิลาแลง” หรือ “แกรนด์แคนยอนเมืองปัว” ที่ห่างออกไปเพียง 500 เมตร เท่านั้น
สามารถแวะเข้ามาจิบเครื่องดื่มเย็นๆ สักแก้ว ไอศกรีมดับร้อนสักถ้วย แล้วเดินชมบรรยากาศท้องทุ่งภายใต้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่และไผ่สูงที่ช่วยเบาแดดในช่วงกลางวัน สูดเอาบรรยากาศที่ปลอดโปร่งให้เต็มปอด แล้วค่อยออกเดินทางต่อก็แล้วแต่สะดวก
เยือน “หอศิลป์” เสพ “กลิ่นน่าน”
พื้นที่กว่า 13 ไร่ริมแม่น้ำน่าน โอมล้อมไปด้วยร่มเงาของตันไม้ใหญ่ ถูกเนรมิตให้เป็นพื้นที่แห่งศิลปะ โดย อาจารย์วินัย ปราบริปู ศิลปินชาวน่าน ที่ต้องการปลูกฝังและสร้างสรรค์บ้านเกิดให้เป็นเมืองแห่งศิลปะ ในชื่อ “หอศิลป์ริมน่าน”
แต่เดิมมีเพียงอาคารหอศิลป์สำหรับจัดแสดงงานศิลปะของศิลปินไทยและผลงานของอาจารย์วินัยเอง โดยจะมีการหมุนเวียนงานศิลปะหลากหลายแขนงจากศิลปินไทยหลายท่านมาให้ชาวน่านได้รับชมและกิจกรรมดีๆ เพื่อชาวน่านตลอดทั้งปี (20 ตุลาคม นี้ จะเป็นนิทรรศการ "The Forest" โดย...เป้ สีน้ำ พร้อมดนตรีในสวน)
ปัจจุบันพื้นที่ภายในหอศิลป์ริมน่านได้พัฒนาเพิ่มขึ้น มีเฮือนหนานบัวผันที่จัดแสดงภาพถ่ายจิตรกรรมฝาผนังฝีมือของหนานบัวผัน ศิลปินผู้เขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังวัดภูมินทร์ วัดหนองบัว รวมถึงภาพจากวัดต่างๆ ที่สำคัญในเมืองน่าน
เฮือนศรีนวล ร้านกาแฟและสถานที่จำหน่ายสินค้าที่ระลึกจำพวกงานหัตถกรรมทำมือรวมถึงของแต่งบ้าน และยังสามารถนั่งพักผ่อนจิบเครื่องดื่มพร้อมชมทิวทัศน์ของแม่น้ำน่าน หรือเดินชมข้าวของเครื่องใช้โบราณที่จัดแสดงอยู่ภายใน
การเดินทาง : จากตัวอำเภอเมืองน่านมุ่งหน้าสู่อำเภอปัว จะพบกับหอศิลป์ริมน่านทางขวามือบริเวณ กม.ที่ 20 (มีป้ายบอกตลอดทาง)
เปิดทำการวันพฤหัสบดี- วันอังคาร (ปิดทุกวันพุธ) เวลา 9.00 น. – 17.00 น.
ค่าธรรมเนียมในการเข้าชมคนละ 20 บาท
☎ 081 9892 912, 054 798 046
ปลายฝนที่งดงามไม่แพ้ต้นหนาว
ทุ่งนาสีทองอร่ามจากรวงข้าวที่สุกสมบูรณ์ พร้อมให้ชาวนาเก็บเกี่ยวในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน ของทุกปี เป็นภาพที่สวยงามน่าประทับใจไม่แพ้นาข้าวในฤดูกาลอื่น
หากใครมีโอกาสมาเที่ยว #น่าน ในช่วงที่ชาวนากำลังลงแขกเกี่ยวข้าว ลองหาที่จอดรถแล้วเดินเข้าไปชมดูใกล้ๆ จะพบกับบรรยากาศความวุ่นวายแต่สนุกสนานของวิถีชีวิตชาวนา เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ดีๆ ที่ได้รับจากการท่องเที่ยว
...และ #ข้าว มื้อต่อไปน่าจะเป็นมื้อที่อร่อยเป็นพิเศษ