CAFE SARU
Coffee Traveler Magazine issue 38
จากสถานีรถไฟ Noksapyang ข้ามถนนและเดินลัดเลาะขึ้น-ลงนิดหน่อย หากพบดอกทานตะวันที่ปักอยู่ตรงช่องระบายน้ำริมถนน แสดงว่าคุณถึงร้าน SARU เรียบร้อยแล้ว
หน้าร้านสีน้ำเงินดูขึงขังกับสไตล์การตกแต่งที่ทำให้รู้สึกถึงความ industrial จากผนังปูน แสงไฟสีส้ม เพดานเตี้ยที่ยิ่งทำให้ร้านมืดสลัวกับรถมอเตอร์ไซค์คันเล็ก แต่น่าแปลกใจที่ร้านเต็มไปด้วยดอกไม้สดส่งกลิ่นหอมหวาน เหมือนจะขัดกับลุกของร้าน แต่กลับกลมกลืนเข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่อ
คุณ Kim Soongin คือเจ้าของร้านและเป็นทั้งบาริสต้าที่ยึดอาชีพบาริสต้ามานานถึง 12 ปี ตกแต่งร้านด้วยการหยิบนำความชอบของตัวเองมารวมกันไว้ทั้งหมด...รวมถึงดอกไม้สดที่ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อออกไปซื้อดอกไม้ทุกวัน แถมยังใจดีจัดดอกไม้เป็นช่อเล็กๆ พร้อมเขียนคำคมน่ารักๆ เป็นของขวัญติดมือให้ลูกค้ากลับบ้านพร้อมรอยยิ้มทุกครั้งที่แวะมาดื่มกาแฟ
เมนูห้ามพลาดที่เป็น Signature ของ SARU คือ Mosabuka เมนูนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากภูเขา Hallasan บนเกาะเจจูในช่วงฤดูหนาว เหมือนภูเขาที่ถูกหิมะสีขาวปกคลุม เป็นการใช้เอสเพรสโซราดลงบนนมเย็นที่ทางร้านปรุงรสขึ้นมาเอง หอมกลิ่นวานิลลา รสชาติหวานมัน ดื่มโดยไม่ต้องคน ได้รสชาติหวาน-ขม-อุ่น-เย็น ทำให้รู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
SARU ยังมีเมนูกาแฟดริปตามสโลแกนของร้าน ‘SARU slow life’ ให้ลูกค้าได้ดื่มด่ำกับรสชาติกาแฟ Single Origin จากอินโดนีเซีย บราซิล โคลัมเบีย เอธิโอเปีย และมีเมนูชื่อ Question Mark คือเมล็ดกาแฟใหม่ๆ ที่มักจะได้มาแบบไม่ซ้ำกัน
พกหนังสือดีๆ ไปด้วยสักเล่ม นั่งจิบกาแฟกับเสียงเพลงแจ๊สเพลินๆ ตามคอนเซ็ปต์ที่เจ้าของร้านตั้งใจ ‘Drink Coffee, listen to good music and bring a good book.’