ผิวแข็งแรง คืออะไร
อายุที่เพิ่มขึ้นมาพร้อมกับสภาพผิวที่อ่อนแอ ส่วนหนึ่งมาจากการต้องเผชิญกับมลภาวะ เครื่องสำอาง รวมถึงความเครียดจากการทำงานที่มากขึ้น หลายคนเลยหวนคิดถึงผิวหน้าเนียนใสไม่หมองคล้ำแบบวัยรุ่น แต่ก่อนที่เราจะดูแลผิวหน้าให้แข็งแรงเหมือนวัยแรกสาว เรามาทำความเข้าใจกับคำว่า “ผิวหน้าแข็งแรง” ที่ถูกต้องกันก่อนดีกว่าว่าคืออะไร
1.ผิวแข็งแรงไม่ได้หมายถึงผิวขาว
หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าคนที่มีผิวขาวแล้วจะหมายถึงการมีผิวที่แข็งแรง เพราะหากลองพิจารณาดูอย่างถี่ถ้วนแล้ว สาวๆ ที่หน้าขาวอาจเต็มไปด้วยปัญหาผิวมากมาย
2.ผิวที่แข็งแรงต้องมี Skin Barrier ที่แข็งแรง
Skin Barrier คือสิ่งที่ช่วยปกป้องผิว เป็นสิ่งที่ช่วยยึดติดเซลล์ผิวไม่ให้เกิดช่องโหว่ เหมือนกับปูนที่คอยเชื่อมอิฐให้แข็งแรง ทำให้สิ่งสกปรกหรือแบคทีเรียภายนอกเล็ดลอดเข้าสู่เซลล์ผิวได้ยาก และยังช่วยเก็บความชุ่มชิ้นของผิวอีกด้วย ดังนั้นผิวที่มี Skin Barrier แข็งแรง จึงช่วยให้ให้สิ่งไม่ดีเข้ามาสู่ผิวและไม่ปล่อยให้ความชุ่มชิ้นเล็ดลอดออกไป สุขภาพผิวที่ดีก็จะตามมา
3.ผิวที่มีความชุ่มชื้น
ผิวที่แข็งแรงคือผิวที่ไม่ขาดน้ำ ดูเปล่งปลั่งอยู่เสมอ มีสัมผัสที่เนียนนุ่มและไม่หยาบกร้าน จะต้องเป็นผิวที่มีมอยเจอร์ไรส์เซอร์และสามารถกระตุ้นการสร้างมอยเจอร์ไรส์เซอร์ตามธรรมชาติได้ด้วยตัวเอง
4.ไม่มีปัญหาผิว
เราจะไม่พบปัญหาสิว ผิวแห้ง ผิวมัน ผิวแพ้ง่าย หรือเรื่องปัญหาผิวเรื้อรังต่างๆ กับผู้ที่มีผิวหน้าแข็งแรง เนื่องจากสิ่งสกปรกและแบคทีเรียต่างๆ เข้าถึงชั้นผิวได้ยากนั่นเอง
6 ปัญหาผิวหน้าของคนไทย
อากาศร้อนและฝุ่นควันของเมืองไทยทำให้สาวๆ หลายคนกังวลเรื่องปัญหาผิวหน้าและมักจะมองหาตัวช่วยเพื่อบำรุงผิวให้แข็งแรง แต่ก่อนที่เราจะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เหมาะสม เรามาทำความรู้จักกับปัญหาผิวหน้ายอดฮิตของคนไทยกันก่อนดีกว่า
1.ผิวมัน
อากาศร้อนเป็นตัวกระตุ้นการทำงานของต่อมน้ำมันใต้ผิว นอกจากนี้ระดับฮอร์โมนที่ผิดปกติ จากการกินอาหารประเภททอด การใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของน้ำมัน หรือการซับหน้าบ่อยๆ ก็ยิ่งทำให้zb;หน้าผลิตน้ำมันมากขึ้น เป็นสาเหตุที่ทำให้หน้าของเราเกิดสิว
2.รูขุมขนกว้าง
คนไทยส่วนใหญ่มักมีปัญหาเรื่องรูขุมขนกว้างซึ่งปัญหานี้มักจะเกิดขึ้นกับสาวๆ ที่มีผิวหน้ามันมากกว่าผิวธรรมดาและผิวแห้ง นอกจากนี้แสงแดดก็ยังเป็นตัวการที่คอยทำลายอีลาสตินและคอลาเจนใต้ผิว ซึ่งช่วยรักษาความกระชับของผิวหน้า ทำให้รูขุมขนกว้างขึ้น
3.ฝ้า / กระ / จุดด่างดำ
สาเหตุหลักมาจากการเผชิญแสงแดดโดยไม่ป้องกันอย่างเหมาะสม ทำให้รังสี UVB ทำร้ายชั้นผิวหนังจนเกิดรอยไหม้ดำ และอาจเกิดจากอีกหลายสาเหตุ เช่น ฮอร์โมนและพันธุกรรม
4.ผิวหมองคล้ำ
ใบหน้าที่หมองคล้ำเกิดจากรังสี UVA จากแสงแดดที่ทำร้ายผิวหน้าของเรา นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากการผลัดเซลล์ผิวตามอายุ การทำความสะอาดใบหน้าไม่ถูกวิธี การพักผ่อนไม่เพียงพอ ผิวขาดน้ำ และความเครียด
5.ผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น
สภาพอากาศที่แห้งแล้งบวกกับแสงแดดที่รุนแรงทำให้ใบหน้าแห้งกร้าน ผิวหน้าขาดน้ำ หรือบางครั้งการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น แอลกอฮอล์ในเครื่องสำอาง ปริมาณน้ำในผิวที่น้อยเกินไป ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาผิวแห้งได้
6.สิวเสี้ยน / สิ่งอุดตัน
การผลิตไขมันบนผิวหน้ามากเกินไปจนอุดตันรูขุมขนเป็นก้อนขาวๆ หรือระดับฮอร์โมนเพศของร่างกายที่กระตุ้นให้ต่อมไขมันทำงานมากขึ้นจนเกิดการอุดตัน นอกจากนี้มลภาวะที่เต็มไปด้วยฝุ่นควัน รวมถึงเครื่องสำอางที่ใช้ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนได้
สาเหตุทำร้ายผิวหน้า รู้แล้วเลี่ยงด่วน!
หลากหลายปัญหาผิวหน้าที่หลายคนกังวลมักเกิดจากหลายสาเหตุที่เราสามารถหลีกเลี่ยงได้ (หรืออาจเกิดจากสาเหตุภายในที่ยากต่อการเลี่ยง) เรามาดูกันดีกว่าว่าสาเหตุที่ทำให้ผิวหน้าหมองค้ำ เกิดสิว แห้งตึง ฯลฯ นั้นเกิดขึ้นเพราะอะไรบ้าง
1.สาเหตุภายใน
ได้แก่ การถ่ายทอดทางพันธุกรรม โรคบางอย่าง อายุที่มากขึ้น และการเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมน ซึ่งเป็นสาเหตุที่หลีกเลี่ยงได้ยาก
2.สภาพแวดล้อม
ไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนที่อาจะต้องเผชิญกับมลภาวะต่างๆ เช่น ฝุ่นละออง ควันพิษ ควันบุหรี่ ลม ฝน ฯลฯ และการเผชิญแสงแดด ล้วนส่งผลกระทบต่อผิวพรรณของเราทั้งสิน
3.ละเลยการทำความสะอาดผิวหน้า
หากคิดว่าการล้างหน้าให้สะอาดไม่สำคัญเพราะไม่ได้แต่งหน้า...นั่นคือความคิดที่ผิด เพราะแม้กระทั่งฝุ่นควันที่เราต้องเผชิญในแต่ละวันก็สามารถอุดตันรูขุมขน ทำให้เกิดปัญหาผิวได้ ดังนั้นการล้างทำความสะอาดใบหน้าให้หมดจดก่อนเข้านอนจึงเป็นสิ่งสำคัญ
4.ร่างกายไม่ได้รับน้ำอย่างเพียงพอ
การดื่มน้ำวันละ 8 แก้วอาจไม่เพียงพอในยุคที่โลกเต็มไปด้วยฝุ่นควันและอากาศที่ร้อนอบอ้าว จึงควรเติมอาหารผิวด้วยน้ำจากผัก ผลไม้ เช่น แตงกวา มะเขือเทศ แตงโม และอาหารที่มีโอเมก้าสูง เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า เมล็ดแฟลกซ์ เมล็ดเจีย เพื่อคงความชุ่มชื้นให้ร่างกาย และปัจจุบันยังมีอาหารเสริมอีกมากมายที่ช่วยบำรุงผิวพรรณ
5.พฤติกรรมการรับประทานอาหาร
เป็นสาเหตุที่สาวๆ รู้ดีแต่ยากต่อการปฏิบัติ คือการหลีกเลี่ยงอาหารประเภทจังค์ฟู้ด อาหารที่มีไขมันมาก หรือการรับประทานอาหารที่ด้อยโภชนาการเป็นประจำ
6.ขาดการออกกำลังกาย
เพราะการขาดออกกำลังกายนอกจากจะให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังช่วยให้สุขภาพผิวแข็งแรงตามไปด้วย
7.ความเครียด พักผ่อนน้อย และความเหนื่อยล้า
สิ่งเหล่านี้คือศัตรูตัวร้ายที่คอยทำลายผิวพรรณ แถมยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพของตัวคุณเองอีกด้วย
8.การใช้ผลิตภัณฑ์ที่รุนแรง
ครีมบำรุงผิวหรือเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของสารเคมีรุนแรงก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวหน้าของเราเกิดปัญหาตามมาได้ ดังนั้นจึงไม่ควรละเลยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพผิวและมีส่วนผสมที่ปลอดภัย